greencurmin curmamax กรีนเคอมิน เคอม่าแม็กซ์ ขมิ้นชัน กรดไหลย้อน โรคกระเพาะ จุกเสียดท้อง

    การทานกรีนเคอมิน และเคอม่าแม็กซ์ ให้เห็นผลไว และได้ผลสูงสุดนั้น สามารถปรับทานตามอาการหนัก-เบา และระยะเวลาที่เป็นของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกสุขลักษณะต่อโรค จะช่วยให้อาการดีขึ้นไว และหายได้

  • เพิ่งเริ่มมีอาการ ตั้งแต่มีอาการน้อย > มาก > มากและเรื้อรัง
  • ระยะเวลาที่เป็น ตั้งแต่เพิ่งเริ่มเป็น > เป็นๆหายๆ > เป็นมานานจนเรื้อรัง
  • ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลโดยตรงต่อโรค เช่น ประเภทของอาหารในแต่ละมื้อที่ไม่ก่อให้อาการกำเริบ, วิธีการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง, การดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ และการปฎิบัติตัวอื่นๆที่ถูกวิธีต่อโรค

     จึงควรหมั่นสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และปรับวิธีการทานขมิ้นชันตามอาการที่เป็นเพื่อให้ได้ผลชัดเจนดังนี้ค่ะการทานให้เห็นผลไว และได้ผลสูงสุด

Green Curmin กรีนเคอมิน

พกพาสะดวก ดูแลอาการต่อเนื่อง

วิธีกินกรีนเคอมิน ขมิ้นชันสกัด ยากรดไหลย้อน โรคกระเพาะ ลดอาการจุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย แสบร้อนกลางอก ขมคอ เรอเปรี้ยว

ระยะเวลา / จำนวนแคปซูล

รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที วันละ 3 เวลา (เพื่อให้ขมิ้นชันละลายและถูกดูดซึมไปออกฤทธิ์ได้ดี) 

มีอาการน้อย รับประทาน 1 แคปซูล/มื้อ
มีอาการมาก รับประทาน 2 แคปซูล/มื้อ
มีอาการมากและเรื้อรัง รับประทาน 3 แคปซูล/มื้อ
หมายเหตุ: หากเกิดอาการปวดเฉียบพลัน!!! สามารถรับประทานแบบน้ำเพิ่มได้ทันทีอีก 1 ขวด

* สำหรับการรับประทานแบบ 3 แคปซูล/มื้อ หากมีอาการดีขึ้นแล้ว สามารถลดปริมาณลงมาเหลือ 2 แคปซูล และ 1 แคปซูลได้ตามลำดับค่ะ*

Curma Max เคอม่าแม็กซ์

สยบอาการเฉียบพลัน

ระยะเวลา / จำนวนขวด

รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที แนะนำให้รับประทานมื้อเช้าเป็นหลักค่ะ สามารถสยบอาการได้ภายในครึ่งชั่วโมง (1 ขวด ขนาด 90 มล.เท่ากับปริมาณขมิ้นชันแบบแคปซูล 3 แคปซูล) 

มีอาการน้อย รับประทาน 1 ขวด ในมื้อเช้า 
มีอาการมาก รับประทาน 1 ขวด ในมื้อเช้าและเย็น
มีอาการมากและเรื้อรัง รับประทาน 1 ขวด ในมื้อเช้า – กลางวัน – เย็น
หมายเหตุ: หากเกิดอาการปวดเฉียบพลัน!!! สามารถรับประทานแบบน้ำเพิ่มได้ทันทีอีก 1 ขวด และหากนำไปแช่เย็นก่อนดื่มจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย 

* สำหรับการรับประทานแบบ 1 ขวด ทั้ง 3 มื้ออาหาร เช้า – กลางวัน – เย็น หากมีอาการดีขึ้นแล้วสามารถลดปริมาณลงมาเหลือทานเฉพาะมื้อเช้าและเย็น จนอาการดีขึ้นแล้วก็ให้รับประทานแค่ 1 ขวดในมื้อเช้า แล้วสังเกตอาการ*

ชุดเม็ดและน้ำสยบอาการเห็นผลไว

กรีนเคอมิน เคอม่าแม็กซ์ ขมิ้นชันสกัด รักษากรดไหลย้อน โรคกระเพาะ ท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย จุกเสียด แสบร้อนกลางอก
สมุนไพรรักษากรดไหลย้อน กรีนเคอมิน เคอม่าแม็กซ์ แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แน่นท้อง แสบร้อนกลางอก จุกคอ

Green Curmin กรีนเคอมิน : รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที วันละ 3 เวลา : เช้า – กลางวัน – เย็น

Curma Max เคอม่าแม็กซ์ : รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที หรือขณะมีอาการปวดเฉียบพลัน

แนะนำวิธีการรับประทานแบบชุดดังนี้ค่ะ

มื้อเช้า : รับประทานเคอม่าแม็กซ์แบบน้ำครั้งละ 1 ขวด

มื้อกลางวันและเย็น : รับประทานกรีนเคอมินแบบแคปซูลครั้งละ 1 – 3 แคปซูล (จำนวนแคปซูลขึ้นอยู่กับอาการหนักเบาตามขั้นตอนการรับประทานแบบแคปซูลข้างต้น)

* หากมีอาการปวดเฉียบพลันให้รับประทานแบบน้ำเพิ่มได้ทันทีอีก 1 ขวด

** สำหรับท่านที่มีอาการปวดระหว่างนอนตอนกลางคืน สามารถรับประทานทานแบบแคปซูลหรือแบบน้ำเพิ่มก่อนนอน หรือสลับรับประทานเป็นแบบแคปซูลก่อนอาหารในมื้อเช้า-กลางวัน-เย็น  และแบบน้ำ 1 ขวดก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการในขณะนอนหลับค่ะ

คำเตือน : การรับประทานยาอื่นร่วมกับขมิ้นชันกรีนเคอมินและเคอม่าแม็กซ์

!! ไม่รับประทานคู่กับยาลดกรดหรือยาเคลือบกระเพาะ เพราะยาเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นด่างจัดจะทำลายสรรพคุณดีๆของขมิ้นชันไปหมด 

!! ไม่รับประทานคู่กับเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ผสมคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งกรดทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้นได้

* ส่วนยาฆ่าเชื้อหรือยาช่วยย่อยสามารถรับประทานได้ค่ะ

*** ทั้งนี้แนะนำให้รับประทานขมิ้นชันกรีนเคอมิน/เคอม่าแม็กซ์อย่างต่อเนื่อง 1 – 3 เดือน (ขึ้นกับระยะที่เป็นและความหนักเบาของอาการ) พร้อมดูแลตัวเองโดยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันร่วมด้วยจะเห็นผลชัดเจนและหายขาดได้  สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ>> ข้อควรปฎิบัติระหว่างการรับประทาน 

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในช่วงรักษาอาการเพื่อให้หายขาด

  • รับประทานอาหารรสชาติอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ประมาณ 10 วัน เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน ช่วยให้กระเพาะทำงานน้อยลง และไม่รับประทานของจุกจิกระหว่างวัน เพราะจะทำให้น้ำย่อยถูกหลั่งออกมาไม่เป็นเวลา
  • รับประทานอาหารให้ตรงเวลาทั้ง 3 มื้อ แต่ละมื้อควรห่างกันไม่เกิน 4 ชั่วโมง หลังรับประทานข้าวแล้วควรลุกเดิน อย่านั่งหรือนอนทันที เพื่อให้ลำไส้ทำงาน
  • ปรับเมนูอาหารให้เพิ่มผักและผลไม้ที่มีกากใยอาหารให้เยอะขึ้น รวมถึงดื่มน้ำเปล่าระหว่างวันให้มากขึ้นด้วย (มากกว่า 8 แก้วขึ้นไป) เพื่อปรับสมดุลระบบการขับถ่าย อย่าปล่อยให้ท้องผูก (หากมีอาการท้องผูก หลังรับประทานอาหารให้ดื่มนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตชนิดไม่มีน้ำตาลแลคโตส จะช่วยลดอาการท้องผูกหรือท้องเสีย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น และช่วยปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานได้ตามปกติ) หากไม่สะดวกสามารถรับประทานควบคู่กับผลิตภัณฑ์ แฮปปี้ ไคโช Happy Kaicho ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติในกลุ่มธัญพืช และต้นอ่อนข้าวสาลี รวมถึงผลไม้อื่นๆ มีส่วนประกอบสำคัญของ Prebiotics เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีมากกว่าโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวกว่า 100 เท่า ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ตามธรรมชาติ เพราะไม่มีส่วนผสมของยาระบาย จึงไม่เกิดอาการปวดบิด
  • ผ่อนคลายร่างกาย ลดความเครียด วิตกกังวล ถ้ามีอาการเยอะจนนอนไม่หลับให้ทานขมิ้นชัน 4 เวลาได้เลยค่ะ คือก่อนอาหาร 30 นาที มื้อเช้า – กลางวัน – เย็น และก่อนนอน
greencurmin curmamax กรีนเคอมิน เคอม่าแม็กซ์ ขมิ้นชัน กรดไหลย้อน โรคกระเพาะ

7 เทคนิคพิชิตกรดไหลย้อน

  1. ปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร งดชา กาแฟ เครื่องดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เครื่องดื่มชูกำลัง งดสูบบุหรี่ และงดรับประทานอาหารที่ย่อยยาก อาหารประเภทรสจัด หวานจัด เค็มจัด เผ็ดจัด มันจัด อาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน อาหารสำเร็จรูป ของหมักของดองต่างๆ 
  2. รับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้น้อยลงโดยเฉพาะมื้อเย็น ไม่มากเกินไป และทานให้เป็นเวลา เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน (อย่างน้อย 10 ครั้ง/คำ) และไม่ควรรับประทานของจุกจิก หรือการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิตสูง ยาแก้โรคซึมเศร้า อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนขึ้นได้
  3. ไม่นั่งหรือนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร ควรทิ้งเวลาห่างอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง และนอนหนุนหมอนสูง 6-8 นิ้ว เพื่อป้องกันอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปที่หลอดอาหาร
  4. ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณเอว
  5. รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม และหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
  6. ดูแลระบบการขับถ่าย อย่าปล่อยให้ท้องผูกนานเกินไป ปรับทานผัก ผลไม้ ที่มีกากใยอาหารเยอะขึ้น ทานน้ำเปล่าเยอะขึ้น เพื่อปรับสมดุลการขับถ่ายให้เป็นปกติ
  7. ลดความเครียด ความวิตกกังวลต่อโรคที่เป็นอยู่ อาการ “เครียด” ลงกระเพาะเป็นภาวะฮิตของคนยุคนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ อาการที่พบได้คือ คลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอบ่อยๆ ปวดแสบช่องท้อง และลิ้นปี่ อาเจียนหรือขับถ่ายออกมาสีดำ ควรหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกาย การเต้นลีลาศ และสันทนาการอื่นๆ

ยินดีให้คำปรึกษาและดูแลต่อเนื่อง

แชร์บทความสุขภาพ