ดื่มน้ำถูกวิธีส่งผลดีต่อร่างกายอย่างไร ดื่มน้ำดีต่อร่างกาย

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญต่อกระบวนการทำงานภายในร่างกาย ทั้งระบบการย่อยอาหารที่สารอาหารต่างๆมักต้องละลายน้ำก่อน จึงผ่านเยื่อบุลำไส้เข้าสู่ร่างกายตามกระแสเลือด และหลอดน้ำเหลือง การล้างสารพิษออกจากร่างกาย การนำสารอาหารและออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆในร่างกายรวมถึงประโยชน์อื่นๆ

น้ำซึ่งมีอยู่ในร่างกาย จะถูกขับออกเป็นเหงื่อและปัสสาวะในทุกๆวัน ฉะนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและถูกวิธี เพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายให้มีสุขภาพดีได้

1) ช่วยนำสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย

2) ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

3) ช่วยให้ปฎิกิริยาเคมีและการเผาผลาญอาหารในร่างกายเป็นไปตามปกติ เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร

4) ช่วยทำให้อัตราการเต้นของหัวใจปกติ

5) ช่วยควบคุมระดับอุณหภูมิในร่างกาย

6) ช่วยควบคุมความดันโลหิต

7) ช่วยขับแบคทีเรียจากกระเพาะปัสสาวะ

8) ช่วยป้องกันอาการท้องผูก

9) เป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อลื่นในข้อต่อ

10) ลดน้ำหนัก ช่วยให้อัตราการเผาผลาญพลังงานแคลลอรี่เพิ่มสูงขึ้น

11) ป้องกันความเสียหายของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ

12) ช่วยบำรุงสุขภาพผิว ให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล

ดื่มน้ำวันละเท่าไหร่ดี?

ในทุกๆวัน ร่างกายคนเรามีการสูญเสียน้ำผ่านทางปัสสาวะ เหงื่อ การหายใจ หรืออื่นๆ การดื่มน้ำเพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไปจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมาก แต่การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะการดื่มน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ และอย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วนั้นเพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย แต่แท้ที่จริงแล้วปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆของผู้บริโภค เช่น กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน เพศ อายุ และปัจจัยอื่นๆ

ประโยชน์ของน้ำที่มีต่อร่างกาย

น้ำมีความสำคัญต่อระบบการย่อยอาหาร สารอาหารต่างๆต้องละลายน้ำก่อน จึงจะผ่านเยื่อบุลำไส้เข้าสู่ร่างกายตามกระแสเลือด และหลอดน้ำเหลืองได้ น้ำจึงเป็นตัวช่วยในการขับสารอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการใช้ออกจากร่างกาย และยังช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกายเราด้วย

น้ำที่มีอยู่ในร่างกาย จะถูกขับออกเป็นเหงื่อและปัสสาวะในทุกๆวัน ฉะนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและถูกวิธี เพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายให้มีสุขภาพดีและนำไปใช้ประโยชน์ได้ดังนี้

1) ช่วยนำสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย และช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

2) ช่วยให้ปฎิกิริยาเคมีและการเผาผลาญอาหารในร่างกายเป็นไปตามปกติ

3) ช่วยในการสะสมอาหาร เช่น ไขมันหรือโปรตีน

4) ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิในร่างกาย

5) ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล

ดื่มน้ำวันละเท่าไหร่ดี?

ในทุกๆวัน ร่างกายคนเรามีการสูญเสียน้ำผ่านทางปัสสาวะ เหงื่อ การหายใจ หรืออื่นๆ การดื่มน้ำเพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไปจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม อาจเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะการดื่มน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ และอย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วนั้นเพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย แต่แท้ที่จริงแล้วปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆของผู้บริโภค เช่น กิจกรรมที่ทำ เพศ และอายุ

ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมมีดังนี้

  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 4-8 ปี ดื่ม 5 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,200 มล.)
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 9-13 ปี ดื่ม 7-8 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,600-1,900 มล.)
  • สำหรับผู้ที่มีอายุ 14-18 ปี ดื่ม 8-11 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,900-2,600 มล.)
  • สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ดื่ม 9 แก้วต่อวัน (ประมาณ 2,100 มล.)
  • สำหรับผู้ชายที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ดื่ม 13 แก้วต่อวัน (ประมาณ 3,000 มล.)

ปริมาณดังกล่าวได้นับรวมถึงน้ำที่ได้จากอาหาร ผัก และผลไม้ต่างๆเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้อาจมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำให้มากขึ้น เมื่อมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก อยู่ในสภาพอากาศร้อน เจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ควรเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำเป็น 10 แก้วต่อวัน และ 13 แก้วต่อวันสำหรับผู้ที่ต้องให้นมบุตร

ช่วงเวลาใดเหมาะสมที่สุดในการดื่มน้ำ?

ดื่มน้ำอย่างไรส่งผลดีต่อร่างกาย ประโยชน์ของน้ำดีต่อสุขภาพ

นอกจากเรื่องปริมาณการดื่มน้ำแล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายให้ดีขึ้น อาจทำได้โดยการดื่มน้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสมดังนี้

✅ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน ช่วยให้ร่างกายขจัดสารพิษต่างๆ และช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายใน

✅ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังจากอาบน้ำ ช่วยลดความดันโลหิตได้

✅ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้ออาหาร ประมาณ 30 นาที ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น

❌ ระหว่างรับประทานอาหารไม่ควรดื่มน้ำตลอดเวลา เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี ย่อยอาหารไม่ได้หมด ทำให้ท้องอืด แน่นท้องได้ ระหว่างทานข้าว ถ้าดื่มน้ำหรือน้ำซุป ไม่ควรเกินครึ่งแก้วน้ำ และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็ไม่ควรดื่มน้ำทันที ควรทิ้งเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้น้ำย่อยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

✅ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนนอน ช่วยแทนที่ของเหลวที่จะสูญเสียในตอนกลางคืนได้ เพื่อชดเชยเวลาหลายชั่วโมงที่ร่างกายไม่ได้รับน้ำขณะนอนหลับ และยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้นด้วยค่ะ

โทษของการดื่มน้ำน้อยเกินไป

การดื่มน้ำน้อยเกินไป อาจเกิดจากความกังวลหรือกลัวอันตรายของการดื่มน้ำมากเกินไป หรืออาจเข้าใจว่าการดื่มน้ำเพียง 8 แก้วต่อวันก็เพียงพอต่อร่างกายแล้ว ทั้งนี้การดื่มน้ำให้เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น แต่หากการดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อนำไปใช้งาน อาจทำให้ร่างกายเกิดขาดน้ำได้

ภาวะร่างกายขาดน้ำ เกิดจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำไปกับเหงื่อและปัสสาวะมากกว่าปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไป อาจสังเกตได้ว่าปัสสาวะมีสีเข้ม และปัสสาวะไม่บ่อยเท่าปกติ หรืออาจปรากฎอาการเหนื่อยล้า และกระหายน้ำอย่างรุนแรง สำหรับเด็ก อาจสังเกตได้จากอาการต่างๆ เช่น ลิ้นแห้ง ปากแห้ง และร้องไห้ไม่มีน้ำตา อาการดังกล่าวมาจากการขาดน้ำ

น้ำที่มีอยู่ในร่างกายเรา จะถูกขับออกเป็นเหงื่อ และปัสสาวะในทุกๆวัน ฉะนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและถูกวิธี เพื่อไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกายให้ทำงานได้เต็มที่ และทำให้มีสุขภาพที่ดี การดื่มน้ำน้อยเกินไป สามารถส่งผลไม่ดีต่อร่างกายได้ ทำให้เกิดอาการปวดนั่น❗ ปวดนี่❗โดยที่เราไม่รู้สาเหตุ เช่น

  • อารมณ์เปลี่ยนแปลง
  • ระบบการไหลเวียนเลือดไม่ดี ทำให้เลือดข้นหนืด
  • มีอาการสับสนหรือมึนเบลอ
  • ท้องผูก ถ่ายยาก ถ่ายไม่สุด
  • อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไป
  • นิ่วในไต
  • เกิดอาการช็อก

อย่างไรก็ตาม ภาวะการขาดน้ำอาจรักษาได้โดยการดื่มน้ำให้มากขึ้น แต่หากมีอาการรุนแรง ควรเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการ และทำการรักษา

***แค่ดื่มน้ำให้ถูกวิธีก็มีประโยชน์มากมายต่อร่างกายเราแล้วนะคะ***

 

แชร์บทความสุขภาพ